แก้ไขหนังตาตก

Content Direction หนังตาตกคืออะไร อาการแบบไหนถึงเรียกว่าหนังตาตก แล้วถ้าเป็นข้างเดียวเกิดจากอะไร มีเทคนิคไหนใช้แก้ไขได้บ้าง สามารถแก้หนังตาตกโดยไม่ผ่าตัดได้ไหม

หนังตาตก อันตรายที่ต้องรีบแก้ไข พร้อมเรียกความมั่นใจให้กลับมา

ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ หากดวงตาเศร้าหมอง และไม่สดใส อาจทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ ปัญหาดวงตาที่พบบ่อย โดยเฉพาะปัญหาหนังตาตก นั้น ส่งผลถึงความมั่นใจ และมากไปกว่านั้นอาจจะกระทบถึงปัญหาสุขภาพ และส่งผลกระทบต่อการมองเห็น รวมถึงอาการระคายเคืองในดวงตาอีกด้วย บทความนี้จะพาไปรู้จักกันว่า หนังตาตกเกิดจากอะไรกันแน่ พร้อมวิธีแก้ไข ทำได้ยังไง ไปดูกันได้เลย

ทำความรู้จัก หนังตาตก คืออะไร

หนังตาตก คือ ลักษณะของบริเวณเปลือกตาหรือหนังตาที่มีความหย่อนคล้อย หรือตกลงมามากเกินไป จนปิดชั้นตาจนถึงตาดำ ทำให้บริเวณหางตาดูเฉียงลง หางตาตก ดวงตาดูโทรม เศร้าหมอง ไม่สดใส และดูมีอายุมากขึ้น นอกจากในเรื่องของความสวยงามแล้วยังส่งผลกระทบต่อการมองเห็นอีกด้วย เนื่องจากในบางราย หากมีหนังตาตกมากเกินไปจะทำให้เกิดการบดบังการมองเห็น อาจต้องอาศัยการเงยหน้าขึ้นเพื่อให้สายตาพ้นจากหนังตาที่หย่อนลงมา ซึ่งอาการหนังตาตกนี้สามารถเกิดพร้อมกันได้ทั้งสองข้าง หรือทีละข้างก็ได้เช่นเดียวกัน

หนังตาตก มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

อาการหนังตาตกมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภทหลักๆ ซึ่งจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

หนังตาตก จากเปลือกตาหย่อน (Dermatochalasis)

อาการหนังตาตกจากเปลือกตาหย่อน จะมีลักษณะของขอบเปลือกตาอยู่ในตำแหน่งที่ปกติ แต่บริเวณเปลือกตาคล้อยลง ทำให้หนังตาตก หากเป็นเพียงเล็กน้อยจะทำให้ชั้นตาไม่เท่ากัน แต่ถ้าหากว่าหนังตาตกอยู่ในขั้นหนัก หนังตาจะหย่อนคล้อยมากจนผิวหนังเปลือกตาตกลงมาบดบังการมองเห็นจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตได้

หนังตาตกจากกล้ามเนื้อเปลือกตา (Ptosis)

อาการหนังตาตกจากภาวะกล้ามเนื้อเปลือกตาทำงานผิดปกติตั้งแต่เกิด จะมีลักษณะของขอบเปลือกหนังตาด้านบนตกลงมา ทำให้เหมือนลืมตาได้ไม่สุด แตกต่างจากอาการหนังตาตกที่เกิดจากหนังตาหย่อนคล้อย

วิธีสังเกตอาการหนังตาตก

เพื่อไม่ให้ดวงตามีปัญหาจนยากที่จะรักษา จะต้องหมั่นสังเกตอาการหนังตาตกของตัวเอง โดยสามารถดูได้จากอาการเหล่านี้

  • ผิวหนังเปลือกตาหย่อน และหนังตาเริ่มตก โดยระดับการตกของเปลือกตาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน
  • มักเงยหน้าหรือเอนศีรษะไปด้านหลังเพื่อมองลอดใต้เปลือกตา
  • มีพฤติกรรมเลิกคิ้วขึ้นบ่อยๆ เพื่อพยายามยกหนังตาที่ตกขึ้น
  • ดวงตาอาจดูเล็กลง เนื่องจากผลกระทบจากอาการหนังตาตก
  • เริ่มมีพฤติกรรมขยี้ตามากเกินไป เพราะมองไม่ชัดจากการที่หนังตาเริ่มตก
  • การมองเห็นเริ่มลดลงจากเดิมเนื่องจากหนังตาเริ่มหย่อน
  • มีความเหนื่อยล้าและปวดเมื่อยบริเวณรอบดวงตาเพราะต้องใช้ดวงตามองมากเกินไป

ปัญหาหนังตาตก เกิดจากอะไร

ปัญหาหนังตาตก เกิดจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ขึ้นอยู่กับวัยของผู้ที่มีอาการหนังตาตก ดังนี้

อาการหนังตาตก ในเด็ก

อาการหนังตาตกในเด็ก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภาวะหนังตาตกตั้งแต่กำเนิด เกิดจากปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ยกเปลือกตาขึ้น ซึ่งในอนาคตเด็กอาจมีความเสี่ยงต่อการมองเห็น หากหนังตาตกมากเกินไปจนบดบังการมองเห็น ซึ่งอาจจะทำให้ดวงตาข้างหนึ่งมีการมองเห็นดีกว่าอีกข้าง

อาการหนังตาตก ในผู้ใหญ่

 อาการหนังตาตกในผู้ใหญ่ เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหนังตาหย่อนคล้อยลง โดยภาวะหนังตาตกในผู้ใหญ่มักเกิดจากอายุที่มากขึ้น อาการบาดเจ็บของดวงตา ผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดตา หรือโรคอื่นๆ ก็ย่อมสามารถส่งผลต่อกล้ามเนื้อเปลือกตา และทำให้หนังตาตกได้เช่นกัน

หนังตาตก กับปัญหาที่ตามมามากกว่าที่คุณคิด

หากไม่รีบรักษาอาการหนังตาตกที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้ทำให้สูญเสียแค่ความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีก ดังนี้

  • ปัญหาริ้วรอยก่อนวัย โดยมีรอยย่นบริเวณหน้าผากและหัวคิ้ว เพราะการที่หนังตาตกจนบดบังการมองเห็นทำให้ต้องเลิกคิ้วเพื่อยกเปลือกตาขึ้นบ่อยๆ เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น หากทำการเลิกคิ้วซ้ำๆ อาจทำให้ริ้วรอยมาก่อนวัยอย่างแน่นอน
  • ปัญหาหน้าดูแก่ก่อนวัย การที่หนังตาตกจะทำให้หางตาตกด้วย ดวงตาดูเล็กลง เปลือกตาไม่เรียบ และตาดูเศร้าไม่สดใสเหมือนเคย จึงทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย
  • ปัญหาขนตาทิ่มตา อาจเกิดอาการเคืองตา ทำให้คันตา น้ำตาไหล หรือลืมตาไม่ขึ้น จนต้องกระพริบตาบ่อยๆ บางรายอาจถึงขั้นกระจกตาติดเชื้อได้ ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่หนังตาตกและทับขนตา ทำให้ขนตาคดเข้าไปข้างในดวงตา แล้วทำให้เกิดการเสียดสีกับกระจกตา
  • ปัญหาสายตาเอียง เมื่อหนังตาหย่อนจะทำให้มีการดันด้านหน้าของดวงตา ซึ่งอาจจะเปลี่ยนรูปร่างของดวงตาทำให้เกิดการบิดเบือนการมองเห็นจนทำให้สายตาเอียงได้
  • ปัญหาตาขี้เกียจ ภาวะหนังตาตกมีลักษณะของหนังตาหย่อนลงมาปิดตาดำ อาจทำให้การมองเห็นแย่ลง ภาพเบลอ และภาพมัวจนนำไปสู่ปัญหาสายตาขี้เกียจได้
  • ตำแหน่งคางเปลี่ยนที่ เมื่อหนังตาตกจนทำให้มองเห็นไม่ชัด อาจต้องมีการเงยหน้าเพื่อให้มองเห็นภาพได้ชัดขึ้น หากมีการเงยหน้าบ่อยๆ จะทำให้เกิดปัญหาที่บริเวณคอ กล้ามเนื้อหน้าผากตึง และคางอาจมีตำแหน่งที่เปลี่ยนไปได้

แก้ไขหนังตาตก ทำได้ยังไงบ้าง

ปัญหาหนังตาตกสามารถแก้ไขได้ด้วยกัน 2 วิธี คือวิธีการแก้ไขโดยไม่พึ่งศัลยกรรม และการศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก ดังนี้

แก้ไขหนังตาตก โดยไม่ต้องศัลยกรรม

หากไม่อยากเจ็บตัว และอยากแก้หนังตาตกโดยไม่ผ่าตัด มีวิธีแก้ไขหนังตาตกโดยไม่ต้องศัลยกรรมที่สามารถทำได้ ดังนี้

ใช้เทปกาวติดตาสองชั้น

การแก้หนังตาตกด้วยวิธีนี้จะใช้เทปกาวติดตาสองชั้นได้ตามความต้องการของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเทปตาข่าย กาวติดชั้นตา หรือสติกเกอร์ ที่นำมาติดที่บริเวณเปลือกตา ทำให้ชั้นตาชัดขึ้น ตาดูโตขึ้น ซึ่งวิธีแก้หนังตาตกด้วยเทปกาวติดตาสองชั้นนั้นมีข้อดี คือไม่ต้องเจ็บตัวในการผ่าตัด เหมาะกับคนที่หนังตาตกไม่มาก เปลือกตาไม่หนามาก แต่สามารถแก้หนังตาตกได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น อีกทั้งข้อเสียคือการที่ชั้นตาอาจดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ และอาจจะใช้เวลาแต่งหน้านานขึ้นเพราะต้องเสียเวลาในการติดชั้นตาก่อน

ยกกระชับรอบดวงตา

การยกกระชับรอบดวงตาเพื่อแก้หนังตาตกนั้นมีด้วยกันอยู่หลายแบบ เช่น Thermage Eye Reborn เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนผิวให้มีความแน่นกระชับ ฟื้นฟูผิว ทำให้ชั้นตาดูชัดขึ้น ดูสดใส ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกในรายที่มีหนังตาหย่อนไม่มาก แก้ปัญหาชั้นตาหลบในได้ดี ต่อมาคือวิธี INDIBA Eye Restore วิธีนี้จะเป็นการนวดกระตุ้นเพื่อสลายไขมันบริเวณรอบดวงตาที่มีปัญหาหนังตาหย่อนไม่มาก และอีกวิธีคือ Ulthera Eye Lock ที่จะทำการยกกระชับและฟื้นฟูโครงสร้างผิวรอบดวงตา ผลคือทำให้ดวงตาเต่งตึง กระชับขึ้น และสามารถแก้หนังตาตกได้

ข้อดีของการใช้วิธียกกระชับรอบดวงตาเหมาะสำหรับคนที่กลัวเจ็บ คนที่อยากแก้หนังตาตกโดยไม่ผ่าตัด และมีภาวะหนังตาตกไม่มาก เพราะเป็นการแก้ไขได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ข้อเสียคืออาจจะต้องไปทำบ่อยๆ และผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถาวร

แก้ไขหนังตาตก ด้วยการทำศัลยกรรมตาสองชั้น

อาการหนังตาตกสามารถแก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมตาสองชั้น โดยมีหลากหลายเทคนิคให้เลือก เพื่อให้เหมาะกับแต่ละคน จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

เทคนิคการยกหางตา

เป็นการผ่าตัดซ่อนรอยแผลใต้คิ้ว มีการยกหางตาขึ้น โดยยึดติดกับกล้ามเนื้อช่วงหางคิ้ว ข้อดีคือทำให้ดวงตาดูสดใส เห็นชั้นตาที่ชัด และเป็นการแก้หนังตาตกได้ดี เพราะแทบจะไม่เห็นรอยแผลเป็นใต้คิ้วเลย ทำให้สามารถเขียนคิ้วปดปิดรอยแผลได้ง่ายมากขึ้น เหมาะกับคนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีปัญหาหนังตาตกเพียงอย่างเดียว ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 52,900[1]  บาท

เทคนิคการยกคิ้ว

เป็นการผ่าตัดยกหางคิ้วขึ้น ซึ่งแผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณชิดขอบบนของหางคิ้ว ข้อดีคือทำให้ชั้นตากับคิ้วไม่ชิดกันมากเกินไป เป็นการยกหนังตาที่ตกบริเวณหางตาขึ้นด้วย เหมาะสำหรับคนที่หนังตาตก หางคิ้วตก และมีปัญหาชั้นตาชิดกับคิ้วมากเกินไป ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 29,000[2]  บาท

เทคนิคการกรีดยาว ร่วมกับเก็บหางตา

เป็นการกรีดยาวเพื่อทำตาสองชั้น ร่วมกับการตัดเก็บหนังตาส่วนเกินที่ตกลงมาปิดทับชั้นตา ข้อดีคือเมื่อทำการผ่าตัดหนังตาตกออกไป คุณหมอจะทำการออกแบบชั้นตาขึ้นใหม่ให้สวยและเหมาะกับใบหน้ามากกว่าเดิม ผลลัพธ์ที่ได้ จะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีชั้นตาเดิมสวยอยู่แล้ว โดยจะทำการอิงจากรูปแบบชั้นตาเดิมได้เลย และสามารถแก้ปัญหาหนังตาตกพร้อมกับได้ชั้นตาที่สวยกว่าเดิม ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ ‎ 17,500[3]  บาท

เทคนิคการเย็บปรับกล้ามเนื้อตา

เป็นการผ่าตัดเย็บปรับกล้ามเนื้อตา เพื่อแก้ไขปัญหาตาปรือและหนังตาตก จากสภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ข้อดีของวิธีนี้สามารถแก้ไขปัญหาลงลึกถึงโครงสร้างกล้ามเนื้อตา พร้อมกับทำตาสองชั้น และเก็บหนังตาส่วนเกินได้เลยทีเดียว ทำให้ตาเปิดกว้าง ดูกลมโตมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการหนังตาตกที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ  21,500[4]  บาท

ศัลยกรรมตาสองชั้น แก้หนังตาตก ทำที่ไหนดี

หากต้องการหาคลินิกที่ให้ผลลัพธ์ในการแก้ไขหนังตาตกให้ได้ตรงใจ DR.GARN CLINIC ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจุดเด่นของที่นี่ คือการออกแบบตาสองชั้นให้ดูหวาน มีเทคนิคเฉพาะ ที่สามารถช่วยแก้ไขหนังตาตกได้ โดยผ่านเคสมามากกว่า 10,000 เคส มีคุณหมอดูแลเองทุกขั้นตอน น่าเชื่อถือ และมีใบประกอบวิชาชีพ ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดจะได้ตาสวยตรงเรฟ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาตาแบบไหนก็แก้ไขได้ อีกทั้ง DR.GARN CLINIC ยังได้รับการันตีจาก Wongnai Beauty หมอทำตาสองชั้นแก้หนังตาตกที่สุดแห่งปี 2022 อีกด้วย

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมแก้หนังตาตก

 การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหนังตาตก มีวิธีการดังนี้

  • แจ้งประวัติการแพ้ยา การเสริม และตกแต่งใบหน้ากับแพทย์โดยละเอียด
  • งดวิตามินอาหารเสริมก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์
  • ให้นำคนมาเป็นเพื่อนในวันผ่าตัดด้วย และไม่แนะนำให้ขับรถกลับเอง
  • ไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันผ่าตัด

วิธีการดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมหนังตาตก

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหนังตาตก มีวิธีการดังนี้

  • ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงทำให้แผลติดเชื้อ
  • ใช้ผ้ารองเจลประคบเย็นที่แผลหลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก
  • ใช้ผ้าก๊อซกดที่แผลจนกว่าเลือดจะหยุดซึม
  • ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง
  • หลังวันที่ 3 เป็นต้นไป หากยังมีรอยช้ำ แนะนำให้ประคบอุ่นไว้
  • งดของแสลง อาหารหมักดอง หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  • ทานยาที่แพทย์สั่งให้อย่างเคร่งครัด
  • ควรตัดไหมตามนัดของหมอ 5-7 วัน

ผลลัพธ์จากการศัลยกรรมหนังตาตก

   หลังจากทำศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีดังนี้

  • มองเห็นได้ชัดขึ้น
  • ดวงตาดูสดใสขึ้น
  • ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์
  • ชั้นตาดูชัดขึ้น

สรุป

เห็นกันไปแล้วว่าปัญหาหนังตาตกที่มองผิวเผินนั้น เหมือนจะเป็นแค่ปัญหาภายนอกที่ส่งผลด้านความมั่นใจเพียงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ปัญหานี้ก่อให้เกิดอาการที่เกี่ยวกับดวงตาและใบหน้าตามมาอีกมากมาย จนอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นเลยก็ได้ จึงควรรีบรักษาอาการหนังตาตกโดยด่วนด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดอันตรายกับดวงตาของเรา

FAQ รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหนังตาตก

บทความนี้ได้รวบรวมคำถามเกี่ยวกับหนังตาตก พร้อมคำตอบไว้ไขข้อสงสัย ดังนี้

การศัลยกรรมหนังตาตก กี่วันถึงจะหาย?

หลังการผ่าตัดศัลยกรรมหนังตาตก แผลจะค่อยๆ ยุบบวมลงในวันที่ 7-10 หลังการผ่าตัด และเพื่อให้ชั้นตาได้เข้าที่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน

หนังตาตก ป้องกันได้ไหม?

ปัญหาหนังตาตกไม่สามารถป้องกันได้หากเป็นมาตั้งแต่กำเนิด และนอกจากนี้ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันสาเหตุของการเกิดหนังตาตกเช่นกัน

อาการหนังตาตกแบบไหน ต้องรีบไปพบแพทย์?

หากปัญหาหนังตาตกส่งผลกระทบต่อการมองเห็น มีอาการหนังตาตกข้างเดียว เปลือกตาข้างหนึ่งเริ่มตก หรือปิดลงทันที และมีอาการปวดตาหรือเห็นภาพซ้อน หากมีอาการแบบนี้ควรรีบเข้าพบแพทย์โดยทันที