ปัจจุบันการทำตาสองชั้นถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งเพื่อความสวยงามของใบหน้า และเพื่อแก้ปัญหาของดวงตา การศัลยกรรมตาสองชั้นมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดของคุณหมอ ซึ่งการเลือกเทคนิคในการทำตาสองชั้นของหมอทำตาสองชั้นแต่ละคนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

การทำตาสองชั้น คือ การศัลยกรรมบริเวณหนังตา และการสร้างชั้นตา เพื่อความสวยงาม และแก้ปัญหารูปตาไม่ว่าจะเป็นคนที่มีปัญหาตาชั้นเดียว หางตาเล็ก หางตาตก ชั้นตาหลบใน และอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งการทำตาสองชั้นเป็นวิธีที่ช่วยทำให้ดวงตากลมโต ใบหน้ามีความสดใส และอ่อนเยาว์มากขึ้น

ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมตาสองชั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าลักษณะดวงตาของตนเองมีลักษณะแบบไหน เพื่อจะได้มองเห็นแนวทางการผ่าตัดทำตาสองชั้นที่เหมาะสม สำหรับลักษณะของดวงตาที่เหมาะกับการทำตาสองชั้นมีดังต่อไปนี้

ตาชั้นเดียว เป็นลักษณะรูปตาของคนเอเชียส่วนใหญ่ คือ มีเปลือกตาหนา หนังส่วนเกินมีเยอะทำให้มองไม่เห็นชั้นตา กลายเป็นตาชั้นเดียว ส่งผลให้รูปตาเล็ก และดูไม่รับเข้ากับใบหน้า

ชั้นตาไม่เท่ากัน คือ ลักษณะที่ตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน สาเหตุอาจมาจากโครงสร้างตาไม่เท่ากันโดยกำเนิด หรืออาจเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้คนที่มีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากันจะไม่สามารออกแรงยกเปลือกตาข้างใดข้างหนึ่งได้ ทำให้ชั้นตาแลดูไม่เท่ากัน

ตาสองชั้นหลบใน คือ ลักษณะของผู้ที่มีชั้นตาสองชั้น แต่หนังตาชั้นบนตกลงมาทับหนังตาชั้นตาล่าง หรือในบางกรณีอาจเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่ และลืมตาได้ไม่เท่ากัน

หนังตาตก ตาปรือ หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นภาวะที่หนังตามีเนื้อ และมีไขมันที่เปลือกตามากเกินไป จนทำให้หนังตาตกลงไปบดบังดวงตา หรือเกิดจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ตาดูเล็ก หรือดูเหมือนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา เพราะลักษณะของชั้นตาที่ปรือ

คนที่เคยทำศัลยกรรมตาสองชั้นมาก่อน อาจมีปัญหาบางอย่าง เช่น หนังตาหย่อนคล้อย ชั้นตาไม่เท่ากัน ชั้นตาหลุด ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน และอื่นๆ ซึ่งคุณหมอทำตาสองชั้นจะเป็นคนพิจารณาประเมิน วิเคราะห์ และเลือกเทคนิคการแก้ไขตามความเป็นจริงของปัญหาที่พบในแต่ละคน

การศัลยกรรมตาสองชั้นมีเทคนิคการทำที่แตกต่างกันออกไป แต่ละเทคนิคก็เหมาะกับการแก้ไขรูปตาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในส่วนนี้จะพาไปดูว่าการทำตาสองชั้นมีกี่ประเภท และมีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไรบ้าง ดังนี้

การทำตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด เป็นการทำตาสองชั้นแบบไม่กรีดชั้นตา แต่เป็นการเย็บชั้นเปลือกตาที่เจาะเป็นจุด 3 จุด ซึ่งเป็นวิธีการศัลยกรรมตาสองชั้นที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น หรือผู้ที่มีตาชั้นเดียว ชั้นไขมันตรงเปลือกตาบาง หนังตาตึงและไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของการทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

• ใช้กระบวนการขั้นตอนทำน้อย เพราะใช้การเย็บเปลือกตาเพียง 3 จุด ทำให้ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อบริเวณดวงตาได้น้อยมาก
• การทำตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด มักไม่มีรอยแผลเป็น หรือหากมีก็มีน้อยมาก เพราะไม่ได้ทำการกรีดบริเวณเปลือกตา

ข้อเสียของการทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

• สร้างชั้นตาได้ไม่ใหญ่มาก
• ชั้นตาที่เย็บไว้มีโอกาสหลุดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อหนังตาส่วนเกินตกลงมา ทำให้เกิดแรงดัน ส่งผลให้หนังตาที่เย็บไว้หลุดได้

การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบแผลเล็ก เป็นการทำตาสองชั้นที่คุณหมอจะกรีดแผลที่เปลือกตาประมาณ 3-10 มิลลิเมตร เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันที่เปลือกตาน้อย และมีปริมาณหนังตาที่ไม่มากเกินไป ซึ่งเป็นวิธีการทำตาสองชั้นที่กรีดเอาไขมันออกจากเปลือกตามากกว่า การทำตาสองชั้นแบบเย็บ 3 จุด ทำให้ดวงตามีชั้นที่สวยงาม และเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

• ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน เพราะเป็นแผลขนาดเล็ก ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อเปลือกตามากนัก ทำให้มีอาการบวมน้อย แผลเข้าที่เร็ว และใช้เวลาพักฟื้นน้อย

ข้อเสียของการทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาส่วนเกินเยอะ และคนที่มีหนังตาตก เพราะหลังการทำตาสองชั้น หนังตาอาจตกลงมาปิดตา ทำให้ตาดูเล็กได้
• ไม่เหมาะกับคนที่มีเปลือกตาหนามาก เพราะอาจทำให้ชั้นตาดูอูมกว่าปกติ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ไม่ได้เอาเนื้อเยื่อเปลือกตาส่วนเกินออก

การทำตาสองชั้นแบบแผลยาว มีความคล้ายคลึงกับแบบแผลเล็ก แต่จะกรีดแผลที่เปลือกตายาวกว่า วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณเปลือกตา และปริมาณหนังตาที่ไม่มากจนเกินไป รวมถึงวัยรุ่น และคนที่มีผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

• ลดโอกาสหนังตาตก หรือหย่อนคล้อยมากกว่าการทำตาสองชั้นแบบแผลเล็ก
• สามารถเอาไขมันออกได้มากกว่าแบบแผลเล็ก

ข้อเสียของการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

• อาการบวมช้ำมากกว่า และใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่าแบบแผลเล็ก เพราะใช้การกรีดยาว ทำให้มีรอยแผลที่ยาวมากกว่า
• ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีไขมัน และเนื้อเปลือกตาหนา เพราะวิธีการนี้เป็นการเอาไขมันออกไม่มาก และไม่ได้ทำการตัดเอาหนังตาส่วนเกินออก ทำให้เกิดโอกาสหนังตาตก หรือหนังตาหย่อนคล้อยได้

เทคนิคการเปิดหัวตา และเปิดหางตา เป็นเทคนิคที่ทำร่วมกับศัลยกรรมตาสองชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาของคนที่มีผิวหนังตาส่วนเกินหย่อนลงมาปิดบริเวณหัวตา หรือหางตา รวมถึงคนที่มีลักษณะตาสั้นในลักษณะที่หนังตกลงมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้หัวตาดูทู่ ไม่ยาว และไม่คม ทาง Doctor Garn Clinic มีเทคนิคพิเศษ คือ เทคนิค Epicanthoplasty ที่หมอทำตาสองชั้นจะทำการผ่าตัดเปิดหางตา เพื่อตกแต่งบริเวณหนังตาที่หย่อนคล้อยช่วยให้ตาดูยาวเรียว และแก้ปัญหาตาชี้ เหมาะมากสำหรับคนที่มีดวงตาเล็ก ตาตี่ มีหนังตาบริเวณหัวตา หรือคนที่มีดวงทั้งสองข้างห่างกันมากที่เรียกว่า ตาเหล่ นั่นเอง

ข้อดีของเทคนิคการเปิดหัวตา หรือหางตา

• เป็นวิธีการที่ทำร่วมกับการทำตาสองชั้นได้
• ช่วยให้ดวงตากลมโต และเรียวยาวขึ้น
• ช่วยแก้ปัญหาตาห่าง ตาสั้น ตาเล็ก หางตาชี้ หรือตาเหล่ได้

ข้อเสียของเทคนิคการเปิดหัวตา หรือหางตา

• อาจมีแผลเป็นบริเวณหัวตาที่สามารถมองเห็นได้ในช่วงแรก แต่จะค่อยๆ จางหายไปเองได้
• หากเปิดหัวตา หรือเปิดหางตามากเกินไปจะดูไม่เป็นธรรมชาติ และแก้ไขได้ยาก

การทำตาสองชั้น เทคนิคการกรีดยาวร่วมกับการตัดหนังตาส่วนเกิน เป็นเทคนิคที่ช่วยให้สามารถเอาไขมัน และหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออกได้มากขึ้น โดยเทคนนิคนี้เหมาะกับคนทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงวัยผู้สูงอายุ หรือคนที่ต้องการชั้นตาที่ชัดเจนมากขึ้น

ข้อดีของเทคนิคการกรีดยาว ร่วมกับตัดหนังตาส่วนเกิน

• ตาสองชั้นที่ทำดูเป็นธรรมชาติ เพราะไม่ได้เป็นการเย็บเพียงชั้นหนังตา แต่เป็นการตัดหนังตาส่วนเกินออก ทำให้ชั้นตาดูสวย และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
• สามารถกำหนดรูปร่างของตาสองชั้นได้ตามความต้องการ

ข้อเสียของเทคนิคการกรีดยาว ร่วมกับตัดหนังตาส่วนเกิน

• มีอาการที่บวม และใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า เพราะใช้วิธีการกรีดแบบยาวที่กระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตา และอาจทำให้มีแผลเป็นแบบยาวตลอดแนวชั้นตา
• ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าแบบอื่นๆ ประมาณ 30-40 นาที เพราะหมอทำตาสองชั้นต้องกรีดตา และเอาไขมันบริเวณเปลือกตาออก

เทคนิค Blink Eye เป็นเทคนิคเฉพาะของ Doctor Garn Clinic เป็นวิธีการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว ร่วมกับการตัดหนังตาส่วนเกิน ตัดไขมัน เย็บเก็บชั้นตา และอาจรวมไปถึงการเปิดหัวตา-หางตาด้วย ทำให้ดวงตาดูเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาของแต่ละคนได้ถูกจุด เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับทุกคน ที่ต้องการแก้ไขชั้นตาแบบต่างๆ

ข้อดีของเทคนิค Blink Eye

• ดวงตาดูเป็นธรรมชาติ เพราะเป็นการกรีดแผลยาวร่วมกับการตัดหนังตาส่วนเกิน ตัดไขมัน เย็บเก็บชั้นตา และการเปิดหัวตา-หางตา
• ดวงตากลมโต ดูสดใส อ่อนเยาว์ รับกับใบหน้า

ข้อเสียของเทคนิค Blink Eye

• อาการบวมมากกว่าและระยะเวลาฟักฟื้นนานกว่าปกติ เพราะเป็นการกรีดแผลยาวที่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อเปลือกตาได้
• มีรอยแผลเป็นที่เป็นแนวยาวตามแผลที่กรีด แต่สามารถรักษาได้ ให้หายได้
• ใช้เวลาการผ่าตัดนานกว่าปกติ เพราะมีขั้นตอนการทำหลายขั้นตอน

ก่อนทำตาสองชั้นแล้ว ต้องทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมด้วย เพราะการเตรียมตัวให้พร้อมจะช่วยให้การทำศัลยกรรมมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยสามารถทำได้ดังนี้

• กรณีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคหัวใจ และอื่นๆ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน เพื่อแพทย์จะได้ประเมินถึงกระบวนการผ่าตัด และการดูแลรักษาได้
• งดอาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์
• พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ต้องงดอาหารก่อนการผ่าตัด
• เตรียมแว่นกันแดด เพื่อสวมป้องกันดวงตาจากแสง และฝุ่นละอองหลังจากผ่าตัด
• ไม่ควรขับรถเองในวันที่ผ่าตัด แนะนำให้มีผู้ติดตาม หรือหาวิธีการเดินทางที่เหมาะสม เพราะหลังจากผ่าตัด ถือเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทำตาสองชั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดมีขั้นตอนดังนี้

• หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมง ต้องระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ และต้องวางเจลประคบเย็นโดยใช้ผ้าก๊อซวางรองก่อน
• ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง โดยการใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ เช็ดทำความสะอาดบริเวณแผล รวมทั้งทายาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งเป็นประจำ
• หลังการผ่าตัด 1-2 วันแรก ให้นอนศีรษะสูงกว่าปกติ เพื่อช่วยลดอาการบวม
• หลังการผ่าตัด 3 วัน สามารถประคบอุ่นเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น พร้อมสลับกับการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมด้วย
• หลีกเลี่ยงอาหารทะเล อาหารหมักดอง ไข่ และแอลกอฮอล์ ในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อป้องกันแผนนูนคัน
• สวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปข้างนอก เพื่อป้องกันแสง และฝุ่นละออง

ศัลยกรรมตาสองชั้นที่ Doctor Garn Clinic มีความแตกต่างในเรื่องของการใช้เทคนิค ‘Blink Eye’ ที่เป็นเทคนิคเฉพาะของ Doctor Garn Clinic ที่ช่วยแก้ไขปัญหาดวงตาได้ตรงจุด เหมาะสมกับใบหน้าแต่ละคน นอกจากนี้ เรายังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละเคสที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ทุกคนพึงพอใจมากที่สุด

การทำตาสองชั้น เป็นการศัลยกรรมดวงตาบริเวณเปลือกตา เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชั้นตา ช่วยให้ชั้นตามีความสวยงาม สมดุล และเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นการแก้ปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาการหนังตาปิดหัวตา-หางตาด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเทคนิคการศัลยกรรมตาสองชั้นหลายเทคนิคที่เหมาะสมกับปัญหาดวงตาในแต่ละเคส และนอกจากการทำตาสองชั้นในเทคนิคต่างๆ แล้ว ที่ Doctor Garn Clinic ยังมีเทคนิคเฉพาะของตัวเอง เรียกว่า เทคนิค Blink Eye ที่ช่วยออกแบบดวงตาให้สวยงามเป็นธรรมชาติ เพราะที่นี่เชื่อว่าดวงตาสวยในแบบที่คุณเลือกได้ เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ยืนหนึ่งต้องเรา เพราะหมอก็อยากสวย จึงเข้าใจว่าต้องทำอย่างไร