ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? มาแก้ปัญหา ต้นเหตุที่ทำให้หน้ามีอายุแก่กว่าวัย

ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร? มาแก้ปัญหา ต้นเหตุที่ทำให้หน้ามีอายุแก่กว่าวัย

หนึ่งในปัญหาบนใบหน้าที่หลายคนพบเจอ ก็คือการมีถุงใต้ตา ที่ทำให้ใบหน้าของเราดูโทรม เหมือนคนอดนอน ดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง พรากความมั่นใจของเราไปจนหมด แม้จะพยายามปกปิดด้วยเครื่องสำอางก็กลบได้ไม่มิด บางคนอาจจะรู้สึกเครียดว่าเจ้าถุงใต้ตานี้มันมาได้อย่างไร เมื่อก่อนยังไม่เคยมีและใบหน้าดูสดใสมากกว่านี้ ในบทความนี้จะมาไขข้อข้องใจ บอกสาเหตุของถุงใต้ตา ว่าเกิดจากอะไร และวิธีลดถุงใต้ตาให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนวัยอีกครั้ง

ทำความรู้จัก ถุงใต้ตา คืออะไร มีลักษณะอย่างไร

เมื่อส่องกระจกแล้วพบว่าบริเวณใต้ดวงตาดูเหมือนมีถุงนูนๆ ออกมา เหมือนมีการบวมปูดขึ้นมา นั่นแหละเรียกว่า ถุงใต้ตา ซึ่งเป็นถุงไขมันใต้ตาที่บวมออกมา เนื่องจากกล้ามเนื้อเปลือกตาล่างที่ทำหน้าที่โอบอุ้มไขมันใต้ตาให้ผิวใต้ตาเรียบกระชับนั้นทำงานได้ไม่ดีเท่าแต่ก่อน ทำให้หนังใต้ตาหย่อนคล้อย โดยมักเกิดจากอายุที่มากขึ้น แต่จริงๆ แล้วสามารถเกิดได้กับคนอายุน้อยเช่นกัน

ถุงใต้ตาบวมข้างเดียว เกิดขึ้นได้อย่างไร รักษาได้ไหม

ถุงใต้ตาไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดขึ้นพร้อมๆ กันทั้งสองข้าง อาจจะเกิดขึ้นเพียงข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ โดยถุงใต้ตาบวมข้างเดียวเกิดจากการที่เยื่อบุตาอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ถ้าเกิดจากสาเหตุนี้มักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ บวมแดง และรู้สึกปวด ซึ่งการจะรักษานั้น จะต้องรักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อ

ถุงใต้ตาเกิดมีกี่ชนิด

ก่อนจะตัดสินใจว่าจะรักษาถุงใต้ตาด้วยวิธีไหน จำเป็นจะต้องรู้ก่อนว่าถุงใต้ตาที่เราเป็นนั้นเป็นแบบไหนกันแน่ โดยถุงใต้ตาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้

ถุงใต้ตาแท้

ถุงใต้ตาแท้ มักเกิดจากกรรมพันธุ์ที่ถูกส่งต่อมา หรือระบบต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ โดยมีลักษณะเป็นถุงบวมอยู่บริเวณใต้ตา มีไขมันมาอยู่ใต้ตามากเกินไป เกิดการบวมน้ำในบริเวณถุงไขมันใต้ตา รวมถึงเกิดจากอายุที่มากขึ้นทำให้ใต้ตาหย่อนคล้อย และไขมันเคลื่อนตัวมากองกันจนเห็นเป็นถุงใต้ตาเด่นชัด

ถุงใต้ตาเทียม

ถุงใต้ตาอีกชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง และเกือบทุกคนอาจจะเคยเป็น คือ ถุงใต้ตาเทียม ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นหลัก มักจะเกิดจากการขยี้ตาบ่อยๆ ร้องไห้หนักๆ ใช้สายตามากๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ทำให้เกิดถุงใต้ตาเทียมได้เช่นกัน

สาเหตุของถุงใต้ตา เกิดจากอะไร

ตามที่ได้เกริ่นเอาไว้ข้างต้น ว่าถุงใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้และอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดถุงใต้ตามีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

กรรมพันธุ์

ถ้าหากถุงใต้ตาเกิดจากกรรมพันธุ์ ก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากเกิดความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ ซึ่งมีส่วนในการควบคุมการไหลเวียนของเหลวต่างๆ ภายในร่างกาย ทำให้มีไขมันมาอยู่บริเวณใต้ตามากเกินไป จนเกิดเป็นถุงไขมันใต้ตาได้

อายุที่มากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น เป็นเรื่องปกติที่เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะเสื่อมสภาพ รวมถึงโครงสร้างของผิวและกล้ามเนื้อที่ไม่ได้แข็งแรงเท่าเมื่อก่อน ส่งผลให้ให้ใต้ตาหย่อนคล้อยลงมา เห็นเป็นถุงใต้ตาที่ดูบวมๆ และอายุที่มากทำให้ผิวหนังบางลงจึงเห็นหลอดเลือดใต้ผิว ผิวใต้ตาเลยดูคล้ำๆ ทำให้ใต้ตายิ่งดูโทรมและเห็นถุงใต้ตาชัดเข้าไปใหญ่

ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับร่างกายของเรา หากร่างกายได้รับน้ำไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวอ่อนแรงลงและเห็นเป็นถุงใต้ตาได้

อาหารการกิน

การรับประทานอาหารบางประเภทก็ส่งผลทำให้เกิดถุงใต้ตาได้เช่นกัน เช่น การบริโภคอาหารที่มีรสเค็มจัด มีโซเดียมสูง จะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำและเกิดการบวมได้

นอนดึก พักผ่อนน้อย

การนอนดึก อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย ทั้งการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ทำได้ไม่ดี ระบบเผาผลาญที่ลดลง และระบบไหลเวียนโลหิตที่สูบฉีดเลือดได้ไม่ดี จนอาจทำให้มีเลือดคั่งบริเวณใต้ตา และทำให้ผิวขาดน้ำจนอ่อนแอลง จึงทำให้เห็นเป็นถุงใต้ตา

ความเครียดสะสม

ความเครียดสะสม และการใช้งานสายตาหนักๆ ทำให้บริเวณดวงตาอ่อนล้า เกิดอาการบวม และผิวใต้ตาคล้ำ ดังนั้นควรหมั่นพักสายตาเป็นระยะ และหากิจกรรมคลายเครียดที่เหมาะสม

มีอาการแพ้

อาการแพ้ของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการแพ้ที่เกิดจากภาวะภูมิแพ้ อาจทำให้เกิดการบวม ระคายเคืองตา คันตา หลายคนจึงเผลอขยี้ตาบ่อยๆ จนเกิดการอักเสบของผิวและสีผิวคล้ำขึ้น

ถุงใต้ตาอันตรายไหม

ผู้ที่กำลังวิตกกังวลอยู่ ทำใจให้สบายได้เลย เพราะถุงใต้ตาไม่เป็นอันตรายใดๆ ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา เพียงแต่ว่าอาจส่งผลต่อความมั่นใจ ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส อ่อนล้า อ่อนเพลีย ดูอายุมากกว่าวัย เห็นรอยดำคล้ำใต้ตามากขึ้น ซึ่งหากอยากจะเรียกความมั่นใจเหล่านั้นกลับคืนมา ก็สามารถแก้ไขได้เช่นกัน

แก้ไขถุงใต้ตาได้ ด้วยการผ่าตัด

สำหรับคนที่ถุงใต้ตามาก สามารถใช้วิธีทางการแพทย์ โดยการตัดถุงใต้ตา เพื่อให้ลดถุงใต้ตาและผิวหนังที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เลเซอร์ที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ขนาดเล็ก ทำให้แก้ไขได้ตรงจุด ไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงโดยไม่จำเป็น ลดอาการบวมและความเจ็บปวดได้ แทบไม่เห็นรอยแผลและไม่ต้องพักฟื้น โดยมีรูปแบบการแก้ถุงใต้ตา 2 รูปแบบ ขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ ดังนี้

เลเซอร์ตัดถุงใต้ตาไร้แผล

เทคนิคนี้จะทำการผ่าตัดถุงใต้ตา โดยการใช้ไมโครเลเซอร์ตัดไขมันใต้ตาส่วนเกินออกจากด้านในของเปลือกตาชิดขอบตาล่าง ทำให้แผลมีขนาดเล็ก มองไม่เห็นจากภายนอก ไม่มีอาการบวมช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น และใช้เวลาทำเพียงแค่ประมาณ 40 นาทีเท่านั้น แต่เหมาะกับผู้ที่มีอายุน้อย ไม่มีปัญหาเรื่องผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยเป็นส่วนเกิน

ตัดถุงใต้ตาและหนังตาส่วนเกินให้ตึง

สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยส่วนเกินร่วมด้วย การผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งถุงใต้ตาและผิวหนังภายนอก โดยใช้เลเซอร์ผ่าตัดเลาะผิวหนังและไขมันสะสมส่วนเกินออกไป ทำให้ผิวใต้ตากระชับขึ้น และมีรอยแผลเพียงเล็กๆ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นเช่นกัน แต่การทำให้ใต้ตาตึงกระชับจะทำได้แค่ประมาณหนึ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเอ็นตาจะรับไม่ไหวจนเกินอาการตาปลิ้นได้

ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการผ่าตัดถุงใต้ตา

หากตัดสินใจว่าอยากผ่าตัดถุงใต้ตาแล้ว ควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดถุงใต้ตาให้มากขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการผ่าตัดถุงใต้ตา มีดังนี้

    • เข้ารับการตรวจประเมินโดยแพทย์ เพื่อเลือกรูปแบบการผ่าตัดที่เหมาะสม

    • ถ้าหากมีภาวะภูมิแพ้ของเยื่อบุตาด้านในจะทำการผ่าตัดจากด้านในไม่ได้

    • ผู้ที่มีอายุมากๆ อาจมีภาวะผิวแห้ง ทำให้แผลหายช้าและผลข้างเคียงอื่นๆ

    • ผู้ที่หนังตาล่างหย่อนยานมากๆ ไม่ควรตัดถุงใต้ตาออกไปมากนัก เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดตาแหกและตาปลิ้นได้

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

ก่อนการผ่าตัดถุงใต้ตาจะต้องมีการเตรียมตัวและแจ้งข้อมูลส่วนตัวบางอย่าง เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยต้องเตรียมตัวดังนี้

    • แจ้งข้อมูลโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา วิตามิน สมุนไพร และยาที่กำลังทานอยู่

    • แจ้งประวัติการทำศัลยกรรมและการผ่าตัดต่างๆ

    • หยุดยาประเภทละลายลิ่มเลือด หรือยาที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด ก่อนผ่าตัด 2-4 สัปดาห์

    • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ก่อนผ่าตัด 1-2 สัปดาห์

    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การดูแลหลังผ่าตัด

ถึงแม้ว่าการผ่าตัดถุงใต้ตาจะมีแผลเพียงเล็กๆ แต่ก็ไม่ควรละเลยการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีคำแนะนำหลังผ่าตัดดังนี้

    • ช่วง 2 วันแรกควรประคบรอบด้วยตาด้วยความเย็น และนอนยกศีรษะสูง เพื่อลดอาการบวม

    • ทานยาให้ครบถ้วนตามแพทย์สั่ง

    • หลีกเลี่ยงอย่าให้แผลโดนน้ำ 3 วัน

    • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของหมักดอง

    • ควรงดกิจกรรมที่ใช้สายตามากๆ

    • งดการใส่คอนแท็กต์เลนส์ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลเกิดการฉีกขาด

    • ระวังอย่าขยี้ตาหรือใช้มือสัมผัสแผล

    • งดการใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา

ผ่าตัดแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่ไหนดี

ผู้ที่อยากลดถุงใต้ตา ควรเลือกผ่าตัดแก้ไขถุงใต้ตากับสถานพยาบาลที่มีใบรับรองชัดเจนและน่าเชื่อถือ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ที่ DR.GARN CLINIC เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศัลยกรรมดวงตา คอยให้คำปรึกษา เข้าใจในทุกความต้องการ และใส่ใจในทุกรายละเอียด ผู้ที่สนใจสามารถชม รีวิวผ่าตัดถุงใต้ตา และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางคลินิกได้เลย

สรุป

ถุงใต้ตามีลักษณะนูนปูดขึ้นมาบริเวณใต้เปลือกตาล่าง ทำให้ดูมีอายุมาก ไม่สดใส ทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ โดยสามารถแบ่งได้เป็น ถุงใต้ตาแท้ และ ถุงใต้ตาเทียม ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น กรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้น ผิวแห้ง นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เครียดสะสม มีอาการแพ้ หรือการกินอาหารเค็มจัด ถุงใต้ตาสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด จะทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ กลับมาสดใสและมั่นใจได้อีกครั้ง และควรดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดอย่างดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ ตามมา เท่านี้ก็จะได้ดวงตาสวยสดใส ไร้ถุงใต้ตามากังวลใจแล้ว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถุงใต้ตา (FAQ)

เมื่อได้รู้จักกับถุงใต้ตา พร้อมการรักษากันไปแล้ว ในบทความนี้ยังได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบมาคลายข้อสงสัยที่หลายๆ คนอาจจะค้างคาใจกันอยู่ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

ผ่าตัดถุงใต้ตาเจ็บไหม

อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในตอนที่ฉีดยาชา และเมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้วในตอนผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บ

ผ่าตัดถุงใต้ตา ได้ผลถาวรหรือไม่

ขึ้นอยู่กับการผ่าตัด ถ้าเป็นการผ่าตัดโดยเอาเพียงไขมันใต้ตาออกไป เมื่ออายุมากขึ้นก็มีโอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมเป็นถุงใต้ตาใหม่ แต่ถ้าผ่าตัดโดยเลาะเอ็นที่อยู่บริเวณใต้ตาร่วมด้วยจะทำให้ไม่มีร่องใต้ตาอีก

อาการบวมจากการผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นอย่างไร

หลังจากผ่าตัดจะเกิดอาการบวมมากในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นจะสามารถลืมตาและมองเห็นได้ปกติ แต่อาจจะมีความบวมช้ำรอบดวงตาอยู่ ซึ่งจะดีขึ้นเมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ และหายดีหลังผ่าตัดไปได้ 1 เดือน

ดมยาสลบ ก่อนผ่าตัดอันตรายหรือไม่

ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการดมยาสลบก่อนผ่าตัด สามารถทำได้ ไม่เป็นอันตราย แต่โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นการผ่าตัดเล็กจะใช้เพียงหยอดยาชาหรือฉีดยาชาก็เพียงพอ

ป้องกันถุงใต้ตาบวมได้อย่างไร

เราสามารถป้องกันการเกิดถุงใต้ตาเทียมได้ โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ไม่ขยี้ตา เมื่อตาแห้งให้หยอดน้ำตาเทียม ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้