PRP

รู้จักกับ PRP ให้มากขึ้น ช่วยรักษาอะไรได้บ้าง มีอันตรายไหม

นวัตกรรมด้านความงามและการดูแลสุขภาพได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ให้ความใส่ใจในการดูแลตนเองได้มีโอกาสในการรักษาสุขภาพและความงามด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น อย่าง PRP หรือ Platelet-Rich Plasma ที่เป็นการใช้ส่วนประกอบของเลือดที่มี Growth factor ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ ดูแลสุขภาพและความงามจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างครบครัน

รู้จักกับ PRP (Platelet-Rich Plasma)

PRP หรือ Platelet-Rich Plasma นั้นหมายถึงส่วนประกอบของเลือดที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดที่มีเซลล์และโปรตีนจากเลือดเข้มข้นที่ได้จากการสกัดเลือดส่วนที่เป็นน้ำเลือดหรือของเหลวมาใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บ รวมถึงใช้ในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ, รักษาอาการผมร่วง และลดการอักเสบในส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งการดูแลสุขภาพด้วย PRP นี้จะต้องเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและลดผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆลงไปเพื่อให้มีความปลอดภัยในการรักษามากที่สุด

หลังจากฉีด PRP ผลของการรักษาจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาจมีการนัดมาทำซ้ำทุกๆ 1 เดือนเพื่อให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งการฉีด PRP เป็นวิธีการที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย สิ่งที่ต้องระวังก็มีเพียงอาการปวดบวมอักเสบหลังฉีดเท่านั้น ซึ่งแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองดังกล่าวให้

PRP ช่วยในเรื่องใดบ้าง

ส่วนประกอบที่สำคัญของ PRP ก็คือ growth factor ที่มีหน้าที่สำคัญคือ ช่วยซ่อมแซมเซลลืที่เสื่อสภาพและกระตุ้นเซลล์ให้กลับมาแข็งแรง จึงมีการนำมาใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บและอาการอักเสบต่างๆ รวมถึงใช้ในการดูแลผิวพรรณและความงามในด้านต่างๆดังต่อไปนี้

  • ใช้รักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง เช่น เข่าอักเสบ,เส้นเอ็นอักเสบ,รองช้ำ,ข้อเข่าเสื่อม,หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เป็นต้น
  • ใช้รักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ รวมทั้งใช้ในการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังการผ่าตัด
  • ใช้ในด้านเสริมความงาม โดย PRP นั้นอุดมไปด้วย Growth factor ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้ผิวดูอิ่มเอิบ เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ลดอาการผมร่วง PRP จะช่วยกระตุ้นรากผมให้กลับมาทำงานจึงมีการสร้างเส้นผมใหม่ขึ้นมาที่ช่วยบรรเทาอาการผมร่วง ผมบางได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผมขึ้นใหม่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัดปลูกเส้นผม

ขั้นตอนการทำ PRP เป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนไปฉีด

เมื่อมาถึงตอนนี้หลายคนคงเกิดความสนใจในการรักษาด้วย PRP แต่ยังไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีขั้นตอนในการรักษาอย่างไรบ้าง ซึ่งเราจะมาอธิบายขั้นตอนต่างๆให้คุณได้เข้าใจมากขึ้นดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • ทำการเจาะเลือดจากผู้เข้ารับบริการในปริมาณ 20-30 ซีซี
  • พนักงานนำเลือดไปเติมสารต้านการแข็งตัวของเลือด จากนั้นก็นำไปปั่นแยกเกร็ดเลือดเพื่อให้ได้ส่วนที่เรียกว่า PRP
  • นำ PRP มาฉีดให้กับผู้เข้ารับบริการเพื่อให้การรักษาตามที่ต้องการ
  • จะเห็นได้ว่าวีการรักษาด้วยการฉีด PRP นั้นทำได้ง่ายและไม่มีข้อยุ่งยากอะไรเลย แต่ทั้งนี้ผู้เข้ารับบริการควรมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดีก่อนเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวดังต่อไปนี้
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำมากๆ และทานอาหารที่มีประโยชน์
  • งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

หลังฉีด PRP ต้องดูแลตนเองอย่างไร

ภายหลังการฉีด PRP แล้ว ผู้รับบริการควรดูแลตนเองด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางประเภทเป็นเวลา 4 สัปดาห์หลังฉีด เช่น ยาแก้อักเสบ,สมุนไพร อาหารเสริม และวิตามินที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนงด
  • หลีกเลี่ยงการประคบเย็นหรือร้อนบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 72 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรืออบซาวน่าหลังทำ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังทำ

การดูแลสุขภาพและความงามด้วยวิธี PRP นั้นเป็นวิธีการที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและผิวพรรณจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ร่างกายเกิดการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความอ่อนเยาว์และความกระจ่างใสของผิวพรรณ รวมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างผมใหม่ที่ช่วยบรรเทาอาการผมร่วง ผมบางได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากสนใจที่จะทำ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพร่างกายและให้การดูแลอย่างถูกต้องทั้งก่อน ระหว่างและหลังทำ เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอย่างที่ต้องการ